เมนู

พรรณนาคาถาที่


พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อทรงแสดงแก่พระราชาถึงเปรตเป็นอันมาก
ที่พากันมายังพระราชนิเวศน์ของพระเจ้าพิมพิสาร อันเป็นเรือนญาติแต่ก่อน
แม้ตนไม่เคยครอบครองมาแต่ก่อน ด้วยสำคัญว่าเรือนของตน ยืนกัน อยู่นอก
ฝาที่ทาง 4 แพร่งและทาง 3 แพร่ง และบานประตู เสวยผลแห่งความริษยา
และความตระหนี่ บางพวกมีหนวดและผมยาวหน้า มีอวัยวะใหญ่น้อยผูก
หย่อนและยาน ผอมหยาบดำ เสมือนต้นตาลถูกไฟป่าไหม้ ยืนต้นอยู่ในที่นั้น ๆ
บางพวกมีเรือนร่างถูกเปลวไฟที่ตั้งขึ้นจากท้องแลบออกจากปาก เพราะความสี
กันแห่งไม้สีไฟ คือความระหาย แผดเผาอยู่ บางพวกไม่ได้รสอื่นนอกจาก
รสคือความหิวระหาย เพราะถึงได้ข้าวน้ำก็ไม่สามารถบริโภคได้ตามต้องการ
เพราะมีหลอดคอมีขนาดเล็กเท่ารูเข็ม และเพราะมีท้องใหญ่ดังภูเขา บางพวก
มีเรือนร่างไม่น่าดู แปลกประหลาดและน่าสะพึงกลัวเหลือเกิน ได้น้ำเลือดน้ำ
หนอง ไขข้อเป็นต้นที่ไหลออกจากแผลหัวฝีที่แตก ของกันและกันหรือของ
สัตว์เหล่าอื่น ลิ้มเลียเหมือนน้ำอมฤต จึงตรัสว่า
ฝูงเปรตพากันมายังเชื่อนี้ตน ยืนอยู่ที่นอกฝา
เรือนก็มี ยืนอยู่ที่ทางสี่แพร่งสามแพร่งก็มี ยืนใกล้
บานประตูก็มี.

เมื่อทรงแสดงความที่กรรมอันเปรตเหล่านั้น ทำมาแล้วเป็นกรรมทารุณ จึงตรัส
คาถาที่ 2 ว่า ปหูเต อนฺนปานมฺหิ เป็นต้น.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปหูเต ได้แก่ ไม่น้อย. ท่านอธิบายว่า
มาก จนพอต้องการ. เอา เป็น ได้ในประโยคเป็นต้นว่า ปหุ สนฺโต
น ภรติ
ผู้มีมากก็ไม่เลี้ยงดู. แต่อาจารย์บางพวกสวดว่า ปหูเต ก็มี พหูเก